ข้อแนะนำในการบำรุงรักษา แบตเตอรี่โบลิเดน รุ่นควิกวัน BOLIDEN QUICK ONE 17EH210ZDP ( สำหรับผู้ใช้)
1.แบตเตอรี่โบลิเดนรุ่นควิกวัน เป็นแบตเตอรี่ชนิด MAINTERNANCE FREE หากใช้งานตามปกติจะไม่ต้องเติมน้ำกลั่นตลอดอายุการใช้งาน
2.แต่หากหลังจากการใช้งานพบว่าระดับน้ำกรดลดลง ให้เติมด้วยน้ำกลั่นเท่านั้นจนระดับกลับขึ้นมาถึงเส้น max ดังเดิม อย่าใช้น้ำกรดเติมเป็นอันขาด อย่าเติมน้ำกลั่นเกินเส้น max เพราะถ้าหากระดับน้ำสูงเกินไป น้ำกรดภายในแบตเตอรี่อาจกระเด็นออกมาเป็นอันตรายต่อชิ้นส่วนรถยนต์ได้ หากระดับน้ำกลั่นลดลงบ่อยๆทำให้ต้องเติมน้ำกลั่นบ่อยครั้ง ให้ถือว่าผิดปกติควรนำรถไปตรวจแรงดันเครื่องประจุไฟในรถหากมีแรงดันประจุไฟสูงกว่า14.40โวลต์ ถือว่าสูงเกินไป ต้องรีบแก้ไขให้แรงดันไฟลดลงต่ำกว่า 14.40โวลต์มิเช่นนั้นแบตเตอรี่จะเสียเร็วด้วยสาเหตุ overcharge
3.หากไฟไม่พอสตาร์ท ไฟใหญ่หน้ารถไม่สว่างแตรไม่ค่อยดังหรือแรงดันที่ขั้วแบตเตอรี่ขณะดับเครื่องยนต์น้อยกว่า12.50โวลต์ให้นำแบตเตอรี่ไปประจุใหม่
ห้ามใช้วิธีเปลี่ยนถ่ายน้ำกรด หากหลังประจุใหม่จนเต็มและใช้แบตเตอรี่ไปได้ไม่นานก็เกิดอาการเช่นเดิมอีก ควรนำรถไปตรวจว่ามีไฟรั่วหรือไม่และควรตรวจแรงดันเครื่องประจุไฟหากมีแรงดันไฟต่ำกว่า 13.80โวลต์ มิเช่นนั้นแบตเตอรี่จะเสียเร็วด้วยสาเหตุ UNDERCHARGE
4.รักษาแบตเตอรี่ให้สะอาดโดยเฉพาะอย่างยิ่งอย่าให้รูระบายอากาศที่จุกหรือที่ด้านข้างของฝา ในแบตเตอรี่บางรุ่นอุดตัน เพราะจะทำให้แบตเตอรี่ระเบิดได้ รักษาขั้วแบตเตอรี่ให้สะอาดถ้าขั้วแบตเตอรี่สกปรกให้ล้างด้วยน้ำร้อนให้สะอาดและทาด้วยจารบีบางๆตรงส่วนบน
5.แบตเตอรี่โบลิเดน รุ่น ควิกวัน สามารถเก็บพลังงานไฟไว้นานกว่าแบตเตอรี่ทั่วไปถึง5เท่า แต่ถ้าไม่ได้ใช้งานแบตเตอรี่เป็นเวลานานๆควรนำไปชาร์จไฟทุกๆ5เดือนต่อครั้ง
ข้อแนะนำในการติดตั้งแบตเตอรี่ BOLIDEN รุ่นควิกวัน ( สำหรับร้านค้า )
แบตเตอรี่โบลิเดน รุ่นควิกวัน เป็นแบตเตอรี่รุ่นสูตรพิเศษพร้อมใช้แผ่นธาตุระบบแคลเซี่ยมดรายชาร์จ สามารถใช้สตาร์ทรถได้ทันทีหลังจากเติมน้ำกรดโดยไม่ต้องเสียเวลารอแต่หากท่าไม่รีบร้อนและต้องการแบตเตอรี่ที่มีประสิทธิภาพและคงทนสูงสุด ท่านควรชาร์จไฟแบตเตอรี่ให้เต็มก่อนนำไปใช้งาน โดยปฏิบัติตามขั้นตอนดังต่อไปนี้
1.จัดเก็บแบตเตอรี่ไว้ในที่ร่มแห้งและไม่เปียกชื้นให้ห่างจากบริเวณที่มีความร้อน เช่นเตาไฟ หรือที่ซึ่งมีแสงแดดส่องถึง
2.ถอดจุกออกจากฝาแบตเตอรี่และดึงเทปที่มีรูระบายอากาศที่จุกออก เฉพาะรุ่นที่ใช้เทปปิดรูระบาย
3.เติมน้ำกรดกำมะถันเจือจาง ความถ่วงจำเพาะ ถ.พ. เท่ากับ 1.280 ลงในแต่ละช่องเซลของแบตเตอรี่จนระดับน้ำกรดสูงถึงเส้นmax เช่นเดิม ถ.พ. ของน้ำกรดกำมะถันที่ใช้เติมต้องมีค่าเท่ากับ 1.208 เท่านั้น
4.การชาร์จไฟให้ตั้งกระแสประมาน 10 เปอเซน ของแอมแปร์ที่20 ซ.ม. ของแบตเตอรี่แต่ละขนาดเช่น NS40 ใช้ 3แอมป์NS60ใช้4แอมป์ N70ใช้7แอมป์ N100ใช้10แอมป์ N200ใช้20แอมป์เป็นต้น
5.ใช้เวลาในการชาร์จไฟจนกระทั่งเกิดฟองแก๊สผุดๆขึ้นอย่างต่อเนื่องทุกช่อง
6.อุณหภูมิของน้ำกรดไม่ควรเกิน50’c ขณะทำการชาร์จไฟ หากอุณหภูมิเกิน50ให้ทำการลดกระแสลงหรือหยุดพักการชาร์จไฟชั่วคราว
7.หลังการชาร์จไฟเต็มที่แล้ว หากระดับน้ำกรดภายในช่องเซลแบตเตอรี่ช่องใดลดลงจากเส้นmax ให้เติมด้วยน้ำกรดตัวเดิมจนถึงระดับเส้นmax ดังเดิม การใช้น้ำกรดเติมนี้ให้ใช้เฉพาะแบตเตอรี่ใหม่ที่ชาร์จไฟครั้งแรกเท่านั้น
8.นำแบตเตอรี่ที่ชาร์จไฟเต็มแล้วไปติดตั้งในรถ โดยต่อสายด้านบวกในรถเข้ากับขั้วบวกของแบตเตอรี่ และต่อสายด้านลบในรถเข้ากับขั้วลบแบตเตอรี่โดยต่อขั้วบวกก่อน เสร็จแล้วจึงค่อยต่อขั้วลบ
ข้อแนะนำในการติดตั้งแบตเตอรี่ BOLIDEN รุ่นควิกวัน สำหรับร้านค้า
แบตเตอรี่โบลิเดน รุ่นควิกวัน เป็นแบตเตอรี่รุ่นสูตรพิเศษพร้อมใช้แผ่นธาตุระบบแคลเซี่ยมดรายชาร์จ สามารถใช้สตาร์ทรถได้ทันทีหลังจากเติมน้ำกรดโดยไม่ต้องเสียเวลารอแต่หากท่าไม่รีบร้อนและต้องการแบตเตอรี่ที่มีประสิทธิภาพและคงทนสูงสุด ท่านควรชาร์จไฟแบตเตอรี่ให้เต็มก่อนนำไปใช้งาน โดยปฏิบัติตามขั้นตอนดังต่อไปนี้
1.จัดเก็บแบตเตอรี่ไว้ในที่ร่มแห้งและไม่เปียกชื้นให้ห่างจากบริเวณที่มีความร้อน เช่นเตาไฟ หรือที่ซึ่งมีแสงแดดส่องถึง
2.ถอดจุกออกจากฝาแบตเตอรี่และดึงเทปที่มีรูระบายอากาศที่จุกออก เฉพาะรุ่นที่ใช้เทปปิดรูระบาย
3.เติมน้ำกรดกำมะถันเจือจาง ความถ่วงจำเพาะ ถ.พ. เท่ากับ 1.280 ลงในแต่ละช่องเซลของแบตเตอรี่จนระดับน้ำกรดสูงถึงเส้นmax เช่นเดิม ถ.พ. ของน้ำกรดกำมะถันที่ใช้เติมต้องมีค่าเท่ากับ 1.208 เท่านั้น
4.การชาร์จไฟให้ตั้งกระแสประมาน 10 เปอเซน ของแอมแปร์ที่20 ซ.ม. ของแบตเตอรี่แต่ละขนาดเช่น NS40 ใช้ 3แอมป์NS60ใช้4แอมป์ N70ใช้7แอมป์ N100ใช้10แอมป์ N200ใช้20แอมป์เป็นต้น
5.ใช้เวลาในการชาร์จไฟจนกระทั่งเกิดฟองแก๊สผุดๆขึ้นอย่างต่อเนื่องทุกช่อง
6.อุณหภูมิของน้ำกรดไม่ควรเกิน50’c ขณะทำการชาร์จไฟ หากอุณหภูมิเกิน50ให้ทำการลดกระแสลงหรือหยุดพักการชาร์จไฟชั่วคราว
7.หลังการชาร์จไฟเต็มที่แล้ว หากระดับน้ำกรดภายในช่องเซลแบตเตอรี่ช่องใดลดลงจากเส้นmax ให้เติมด้วยน้ำกรดตัวเดิมจนถึงระดับเส้นmax ดังเดิม การใช้น้ำกรดเติมนี้ให้ใช้เฉพาะแบตเตอรี่ใหม่ที่ชาร์จไฟครั้งแรกเท่านั้น
8.นำแบตเตอรี่ที่ชาร์จไฟเต็มแล้วไปติดตั้งในรถ โดยต่อสายด้านบวกในรถเข้ากับขั้วบวกของแบตเตอรี่ และต่อสายด้านลบในรถเข้ากับขั้วลบแบตเตอรี่โดยต่อขั้วบวกก่อน เสร็จแล้วจึงค่อยต่อขั้วลบ
คู่มือการใช้งานแบตเตอรี่รถยนต์ ฺ BOLIDEN QUICK ONE 17EH210ZDP
-โปรดปฏิบัติตามคำแนะนำในคู่มือการใช้งานแบตเตอรี่และคู่มือการใช้งานรถยนต์ การติดตั้งผิดวิธีอาจเป็นสาเหตุทำให้แบตเตอรี่เกิดการติดไฟ หรือระเบิด และน้ำกรด กระเด็นถูกดวงตาและผิวหนังทำให้อักเสบได้
-ก่อนการใช้งานต้องใส่อุปกรณ์ป้องกันดวงตา สวมถุงมือยาง การติดตั้งผิดวิธีอาจเป็นสาเหตุทำให้แบตเตอรี่ติดไฟหรือระเบิด และน้ำกรด กระเด็นถูกดวงตาและผิวหนังทำให้อักเสบได้
-ห้ามเด็กเข้าใกล้ การติดตั้งผิดวิธีอาจเป็นสาเหตุทำให้แบตเตอรี่ติดไฟหรือระเบิด และน้ำกรด กระเด็นถูกดวงตาและผิวหนังทำให้อักเสบได้
-ระวังระเบิด .เนื่องจากแบตเตอรี่จะปล่อยก๊าชไฮโตรเจนออกมา ดั้งนั้นการติดตั้งผิดวิธี จะเป็นสาเหตุทำให้ระเบิดได้
-ห้ามนำเปลวไฟเข้าใกล้
-ห้ามนำเครื่องมือที่เป็นโลหะไปสัมผัส ลัดวงจรที่ขั้วบวกลบ
-ก่อนติดตั้งโปรดสัมผัสที่ตัวถังรถยนต์ เพื่อให้ปลอดจากไฟฟ้าสถิต
-ห้ามใช้ผ้าแห้งทำความสะอาดแบตเตอรี่ โปรดใช้ผ้าชื้นทำความสะอาด .เปลวไฟหรือไฟฟ้าสถิตจะเป็นสาเหตุที่ทำให้เกิดการระเบิด
-น้ำกรดในแบตเตอรี่ มีส่วนผสมกำมะถัน โปรดระมัดระวังในการติดตั้ง .เป็นเหตุทำให้เข้าดวงตาทำให้ตาบอด หากถูกผิวหนังทำให้ผิวหนังไหม๊ หากถูกเสื้อผ้าทำให้ขาดเสียหาย
-หากน้ำกรดในแบตเตอรี่ กระเด็นเข้าดวงตาควรใช้น้ำสะอาดจำนวนมากล้างตาทันทีและรีบไปพบแพทย์เพื่อทำการรักษา
-หากน้ำกรดในแบตเตอรี่ กระเด็นเข้าปากควรดื่มน้ำเข้าไปใช้น้ำสะอาดจำนวนมากๆกลั้วคอและดื่มน้ำหรือนมทันที รีบไปพบแพทย์เพื่อทำการรักษา
-หากน้ำกรดในแบตเตอรี่กระเด็นถูกผิวหนังหรือถูกเสื้อผ้า ใช้น้ำสะอาดจำนวนมากล้างออกทันที
-ห้ามใช้งานหรือการอัดไฟใดๆหากน้ำกรดในแบตเตอรี่ลดลงต่ำกว่าระดับเส้นล่าง lower level .ไม่เพียงแต่ทำให้แบตเตอรี่มีอายุการใช้งานสั้นลงแล้ว ยังทำให้เกิดการระเบิดขึ้นได้
-ห้ามต่อพ่วงแบตเตอรี่โดยตรงเข้ากับอุปกรณ์เครื่องใช้ไฟฟ้าใดๆ .อาจเป็นเหตุทำให้สายไฟไหม้และรถยนต์ไฟไหม้ขึ้นได้
-จุกแบตเตอรี่ห้ามอุดตัน .อาจเป็นเหตุทำให้ระเบิดขึ้นได้
-ห้ามดัดแปลงหรือแยกชิ้นส่วนแบตเตอรี่ .อาจเป็นเหตุทำให้ระเบิดขึ้นทันทีและน้ำกรดกระเด็น
-เติมน้ำกลั่น ห้ามเติมเกินระดับเส้นบน upper level .หากน้ำกรดไหลออกจากจุก อาจเป็นเหตุทำให้รถยนต์เสียหาย หรือไฟไหม้ขึ้นได้
-ห้ามเอียง หรือตะแคงแบตเตอรี่ .เป็นเหตุทำให้น้ำกรดในแบตเตอรี่ไหลซึมออกมาได้
-ห้ามใช้งานแบตเตอรี่เมื่อมีความผิดปกติเช่น บวม น้ำกรดไหลซึม มีกลิ่นเหม็น เป็นต้น .เป็นเหตุทำให้ไฟไหม้ หรือระเบิด
1.ก่อนเริ่มใช้งาน
-แบตเตอรี่ลูกนี้ ถูกออกแบบมาเพื่อนำไปสตาร์ทเครื่องยนต์ของรถยนต์เท่านั้น ไม่เหมาะที่จะใช้งานอื่นๆ เช่น นำไปใช้กับเครื่องจักรการเกษตรกรรม เครื่องจักรก่อสร้าง เรือเดินสมุทร รถยนต์ไฟฟ้า เครื่องเชื่อม
-ห้ามใช้งานในสภาพแวดล้อมที่มีน้ำ หรือน้ำทะเลท่วมถึง
2.การจัดเก็บ
-โปรดจัดเก็บแบตเตอรี่ไว้ในที่อากาศถ่ายเทสะดวก ห้ามถูกแสงแดดโดยตรง ปลอดฝุ่นน้ำค้างและที่เปียกชื้น
-โปรดจัดเก็บในสถานที่ที่เด็กเข้าไม่ถึง
-ห้ามนำเปลวไฟเข้าใกล้ และห้ามทำให้เกิดการลัดวงจร
-โปรดจัดเก็บในสถานที่ที่ไม่ตากน้ำค้าง หรือน้ำค้างแข็ง จะมีผลเสียให้แบตเตอรี่จะคลายกระแสไฟออกหมด และน้ำกรดในแบตเตอรี่อาจกลายเป็นน้ำแข็ง
3.การเคลื่อนย้าย
-ห้ามยกกลับหัว เอียง คว่ำ ตกหล่น หรือกระแทก
-โปรดระมัดระวังในการยก เนื่องจากแบตเตอรี่เป็นของหนัก อาจจะทำให้เกิดอาการปวดหลัง ได้รับบาดเจ็บหากตกหล่นและอุปกรณ์เครื่องใช้เสียหาย
-กรณีแบตเตอรี่ที่มีหูหิ้ว ห้ามหิ้วแบตเตอรี่หมุนแกว่งไปมา
4.วิธีเลือกเปลี่ยนแบตเตอรี่
-โปรดเปลี่ยนแบตเตอรี่ที่มีตำแหน่งขั้วเหมือนกับที่ติดตั้งมากับรถยนต์
-เปลี่ยนแบตเตอรี่ที่มีขนาดเท่ากับลูกที่ติดตั้งมากับรถยนต์
-หากใช้แบตเตอรี่2ลูก โปรดเปลี่ยนแบตเตอรี่ที่มีขนาดและกำลังไฟเท่ากันและเปลี่ยนพร้อมกัน2ลูก
-ตรวจสอบเปลือกหม้อแบตเตอรี่ ว่าไม่ผิดปกติ เช่นไม่มีน้ำกรดรั่วซึม บิดเบี้ยวหรือเปล่งบวม
รูปแสดงการพ่วงแบตเตอรี่ กรณี แบตหมด
วิธีเปลี่ยนแบตเตอรี่
1.วิธีติดตั้ง
ก่อนการติดตั้งแบตเตอรี่ โปรดสัมผัสที่ตัวถังรถยนต์เพื่อให้ปลอดจากไฟฟ้าสถิตเมื่อจะติดตั้งแบตเตอรี่โปรดสวมถุงมือยาง ใส่แว่นป้องกัน
2.วิธีการถอดแบตเตอรี่ออก
โปรด ปฎิบัติตามขั้นตอนดังนี้
1.ดับเครื่องยนต์และดึงกุญแจออก
-ปิดสวิทช์ไฟต่างๆให้หมด
2.ถอดสายไฟขั้วลบ-ก่อน
3.ถอดสายไฟขั้วบวก+ ทีหลัง
4.ถอดเหล็กยึดแบตเตอรี่ออก
กรณีขั้วไฟต่างๆสกปรก ขอแนะนำให้ทำความสะอาด เช่นการใช้แปรงขัด กระดาษทราย ตามความเหมาะสมส่วนรถยนต์ที่ติดตั้งอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์เมมโมรี่บันทึกข้อมูล –กล่องควบคุม หากถอดแบตเตอรี่ออกจะทำให้ข้อมูลที่บันทึกในเมมโมรี่หายไป จะต้องมีการสำรองไฟเลี้ยงกล่อง หรือเครื่องยนต์เลี้ยงไฟโดยตรง
3.วิธีการติดตั้งแบตเตอรี่
-1.วางแบตเตอรี่บนถาดรอง หรือฐานตัวรถยนต์ จากนั้นสวมเหล็กยึดแบตเตอรี่และขัดยึดให้แน่น
1.1 กรณีแบตเตอรี่ลูกใหม่ที่มีหูหิ้ว โปรดพับเก็บให้เรียบร้อย
1.2กรณีมีฝาป้องกันแบตเตอรี่ โปรดใส่กลับให้เหมือนเดิม
-2.โปรดใส่ขั้วสายไฟบวก+ ที่ขั้วบวกของแบตเตอรี่แล้วขันน๊อตให้แน่น
-3.โปรดใส่ขั้วสายไฟลบ-ที่ขั้วลบของแบตเตอรี่แล้วขันน๊อตให้แน่น
-4.โปรดใส่ฝาครอบทาที่ขั้วสายไฟบวกให้เหมือนเดิม
-รถบางรุ่นอาจจะไม่มีฝาครอบขั้วติดมากับรถยนต์
-แนะนำให้ใช้จารบีทาที่ขั้วโลหะสายไฟ เพื่อป้องกันการสึกหรอ หรือเกิดสนิมกัดกร่อน
4.การกำจัดแบตเตอรี่เก่าที่ถูกถอดออกมา
โปรดจัดเก็บด้วยความระมัดระวัง เนื่องจากแบตเตอรี่เก่ายังประจุไฟฟ้าเหลืออยู่ ห้ามทิ้งแบตเตอรี่เก่า ปะปนไปกับขยะบ้าน โปรดทิ้งแบตเตอรี่เก่าให้กับแหล่งรวมที่ได้รับอนุญาต
วิธีการบำรุงรักษาและตรวจสอบ
การตรวจระดับน้ำกรด
1.ตรวจเช็คดูว่า แบตเตอรี่มีระดับน้ำกรดอยู่ระหว่างเส้นขีดบน UPPER LEVEL และระดับล่าง LOWER LEVEL
2.โปรดหยุดใช้งานทันที ถ้าแบตเตอรี่ทีมีระดับน้ำกรดต่ำกว่าเส้นขีดล่าง UPPER LEVEL ถ้าระดับน้ำกรดลดลงใกล้กับเส้นล่าง กรุณาเติมน้ำกลั่นเพิ่ม
-กรณีแบตเตอรี่มีระดับน้ำกรดอยู่ระหว่างเส้นล่าง และเส้นบน แนะนำให้เติมน้ำกลั่น ไม่ควรใช้แบตเตอรี่ที่มีระดับน้ำกรดต่ำกว่าเส้นล่าง
-กรณีแบตเตอรี่มีระดับน้ำกรดอยู่ระหว่างเส้นล่าง อาจทำให้ชิ้นส่วนโลหะภายในสึกกร่อน น้ำแห้งเร็วขึ้น และมีความเสี่ยงในการระเบิดสูง ดังนั้นขอแนะนำให้เปลี่ยนแบตเตอรี่ลูกใหม่
-เมื่อระดับน้ำกรดลดต่ำกว่าเส้นขีดต่ำแล้ว จะมีผลทำให้แผ่นธาตุแบตเตอรี่ร่วง ถึงแม้จะเติมน้ำกลั่นเพิ่มก็ตาม น้ำก็จะลดลงอีกและจะเป็นอันตราย โปรดเปลี่ยนแบตเตอรี่ลูกใหม่ทันที
-น้ำที่ควรใช้เติมเพิ่มในแบตเตอรี่ ควรเป็นน้ำกลั่นบริสุทธิ์
3.เตรียมน้ำกลั่นบริสุทธิ์ที่จะใช้เติมแบตเตอรี่เท่านั้น
4.หมุนจุกช่องเติมออก
5.เติมน้ำกลั่นบริสุทธิ์ลงในช่องเติม ให้ระดับน้ำกลั่นมาอยู่ที่เส้นบน UPPER LEVEL
-ห้ามเติมน้ำกลั่นเกินกว่าเส้นระดับบน UPPER LEVEL
-ใช้ฉพาะน้ำกลั่นบริสุทธิ์เติมเท่านั้น ห้ามใช้น้ำอื่นๆเติม
6.ใช้ผ้าชุบน้ำ เช็ดทำความสะอาดคราบที่เลอะแบตเตอรี่
2.การทำความสะอาดแบตเตอรี่
เช็ดด้วยผ้าชุบน้ำ
-ห้ามเช็ดด้วยผ้าแห้ง
-ห้ามทำความสะอาดด้วยผงชักฟอก น้ำมันเบนซิน ทินเนอร์ น้ำมันที่เป็นสารละลายอินทรีย์
3.ตรวจเช็คสายไฟขั้วต่อและเหล็กยึดแบตเตอรี่
1.สายไฟขั้วต่อและเหล็กยึดแบตเตอรี่ ติดตั้งแน่นหนาหรือไม่
2.ถ้าพบว่าไม่แน่น โปรดขันน๊อตให้แน่น
เมื่อแบตเตอรี่ไฟหมด
1.การใช้สายพ่วงสตาร์ทเครื่องยนต์ JUMP STARTING
รถกู้ภัยที่มาช่วยเหลือจะต้องใช้แบตเตอรี่ที่มีกระแสไฟเท่ากัน 12vหรือ24v และขนาดเท่ากันกับรถที่มีปัญหา โดยใช้สายพ่วงสตาร์ทเครื่องยนต์
-วิธีการพ่วงที่อธิบายในคู่มือเป็นเพียงตัวอย่างกับรถยนต์ทั่วไปเท่านั้น และขอให้ดูคู่มือจากรถยนต์ของท่าน
1.ดับเครื่องยนต์ทั้งรถกู้ภัยและรถที่เป็นปัญหา
2.ก่อนอื่นให้ตรวจดูระดับน้ำกรดในแบตเตอรี่ ถ้าระดับน้ำอยู่ต่ำกว่าระดับเส้นล่างให้เติมน้ำเพิ่ม
3.โปรดต่อสายพ่วงให้ขั้วทั้ง2ฝ่ายตรงกันเช่น/ ขั้วบวก+ต่อกับขั้ว+/ และขั้วลบ-ต่อเข้ากับขั้วลบ
-ระมัดระวัง อย่าปล่อยให้สายพ่วงเข้าไปพันกับพัดลมระบายความร้อน
-ระมัดระวัง อย่าดึงสายพ่วงตึงและแรงเกินไป
4.เริ่มจาก ติดเครื่องยนต์รถกู้ชีพก่อน พร้อมกับเร่งรอบเครื่องให้สูงขึ้นเล็กน้อย
5.จากนั้น ติดเครื่องยนต์รถที่มีปัญหา
6.เมื่อเครื่องยนต์ติดแล้ว ให้ถอดสายพ่วงออก
2.การอัดไฟด้วยเครื่องอัดไฟ
การอัดไฟด้วยเครื่องอัดไฟ ก่อนอื่นให้ถอดแบตเตอรี่ออกจากรถยนต์ หลังจากนั้นหมุนจุกช่องเติมของน้ำกลั่นออกทุกจุก เพื่อให้ก๊าซระบายออกในระหว่างอัดไฟ สถานที่อัดไฟควรมีอากาศถ่ายเทสะดวกและขอให้ปฎิบัติตามขั้นตอนตามคู่มือแนะนำการใช้เครื่องอัดไฟสำหรับกระแสไฟที่ใช้อัดแบตเตอรี่ ต้องอยู่ที่ระดับ 13-14.4v และหยุดอัดไฟชั่วคราวเมื่อ อุณหภูมิน้ำกรดและตัวถังร้อนสูงกว่า 55 องศาเซลเซียส
1.แบตเตอร์รี่โบรี่เด้น รุ่น "ควิกวัน" หากใช้งานตามปกติจะไม่ต้องเติมน้ำกลั่นตลอดอายุการใช้งาน
2.หากพบว่าระดับน้ำกรดลงให้เติมด้วยน้ำกลั่นเท่านั้น จนระดับของน้ำกรดรดกลับขึ้นมาถึงเส้น max ดังเดิม และอย่าใช้น้ำกรดเติมเป็นอันขาด อย่าเติมน้ำกลั่นเกินเส้น max เพาระถ้าหากระดับน้ำสูงเกินไป น้ำกนดภายในแบตเตอร์รี่อาจกระเด็นออกมาเป็นอันตะรายต่อชิ้นส่วนของรถยนต์ได้
3.หากไฟไม่พอสตาร์ท ไฟรถไม่สว่าง แตรไม่ค่อยดัง ให้น้ำแบตเตอรืรี่ไปชาร์จไฟใหม่(ห้ามใช้วิธีเปลี่ยนถ่ายน้ำกรด)รักษาแบตเตอร์ให้สะอาด โดยเฉพาะอย่างยิ่งอย่าใหรุระบาย อากาศที่จุดหรือ ที่ด้านข้างของฝา(ในแบตเตอร์รี่บางรุ่น)อุดตัน เพราะจะทำให้แบตเตอร์รี่ระเบิดได้รักษาขั้วแบตเตอร์ให้สะอาด ถ้าขั้วสกปรกให้ล้างด้วยน้ำร้อนให้สะอาด และทาด้วยจาระบีบางๆตรงส่วนบน
4.แบตเตอร์โบรี่เด้น รุ่น"ควิกวัน"สามารถเก็บพลังงานไฟไว้ได้นานกว่าแบตเตอร์ทั่วไปถึง 3 เท่า แต่ไม่ได้ใช้งานแบตเตอร์เป็นเวลานานๆควรนำไปชาร์จไฟทุกๆ3เดือนต่อครั้ง
5.แบตเตอร์รี่เป็นส่วนหนึ่งของระบบไฟในรถยนต์ ถ้าอุปกรณ์ต่างๆของระบบไฟในรถยนต์บกพร่อง อาทิเช่น ไดนาโมชาร์จ คัทเอาท์ สายไฟ ก็จะทำให้การทำงานของแบตร์รี่อาจบกพร่องไปด้วย ตัวอย่างเช่นถ้าระดับน้ำกรดภายใน แบตเตอร์รี่ลดต่ำ ลงเร็วกว่าปกติ อาจมีสาเหตุมาจากการที่ระบบไฟชาร์จเข้าแบตเตอร์รี่มากเกินกว่าเกณฑ์ที่สมควร
6.อีกตัวอย่างหนึ่งแบตเตอร์รี่ เก็บไฟไม่อยู่ อาจมีสาเหตุมาจากการที่ระบบไฟชาร์จไฟฟ้าเข้าแบตเตอร์น้อยกว่าเกณฑ์ที่สมควร
3.ระวังน้ำกรดน้ำยาภายในแบตเตอร์รี่ใช้น้ำกรดกำมะถั๋น ซึ้งเป็นอันตรายต่อตาและผิวหนังและเสื้อผ้า ห้ากถูกน้ำกรดรีบล้าง ด้วยน้ำสะอาดและปรึกษาแพทย์
แบตเตอร์รี่ที่เสียภายในเงื่อนไข หมายถึง แบตเตอร์รี่ที่บริษัทรับเคมมาและได้รับการตรวจสอบตามมาตรฐานของบริษัท และพบว่าเสียไม่สามารถใช้งานเสียดังต่อไปนี้
1.ลัดวงจร หมายถึง การที่แผ่นธาตุบวกและแผ่นธาตุลบติดกัน กล่าวคือ แบตเตอร์มีการประกอบไม่เรียบร้อย ทำให้เศษตะกัวบางส่วนหลงเหลืออยู่ในเซล หรือเกิดความบกพร่องที่แผ่นธาตุ ทำให้แผ่นธาตุบวกและแผ่นธาตุลบสำผัสกัน
2.สะพานไฟ หมายถึง แบตเตอร์รี่ที่มีข้อบกพร่อง โดยแผ่นธาตุขาดจาก BUSBAR หรือสะพารเชื่อมต่อระหว่างเซลขาดออกจจากกัน
3.หม้อแตกหรือการขนส่ง หมายถึง แบตเตอร์รี่ที่เปลือกและฝาชำรุด มีรอยรั้วขาว หรือแตกเสียหายไม่สามารถแก้ไขได้โดยปกติเป็นแบตเตอร์รี่ยังไม่ได้เติมน้ำกรด เสียหายในขณะขนส่งให้กับลูกค้า
4.ขั้วขาดภายใน หมายถึง การที่ขั้วยาวบวกหรือขั้วยาวลบภายในแบตเตอร์รี่ที่ต่อจากสะพานไฟถึงขั้วบวกหรอขั้วลบทีฝาแบตเตอร์รี่ขาดหรอเสียหาย หลังมีการใช้