เครื่องวัดประสิทธฺิภาพแบตเตอรี่รถยนต์ ทุกรุ่นประกัน1ปี

        

เครื่องวัดประสิทธิภาพของแบตเตอรี่  BT111 , BT222 , BT501
ประกัน1ปี

     
เครื่องวัดประสิทธิภาพแบตเตอรี่รถยนต์ 6V/12V  รถยนต์ DHC RT777
ประกัน1ปี

 
เครื่องวัดประสิทธิภาพแบตเตอรี่รถยนต์  6V/8V /12V DHC BT2000EV
สามารถวัดประสิทธิภาพแบตเตอรี่รถยนต์ทุกชนิด กรด-ตะกั่ว ,MF ,SMF
รถกอลฟ์ Batt deep cycle  6volt , 8 volt ,12volt
ประกัน1ปี

คู่มือการใช้งานเครื่องวัดค่า CCA 

เครื่องวัดค่า CCA , DHC รุ่น BT111 , BT222
การวัดค่า CCA ของแบตเตอรี่ รถยนต์ ทั้งแบตน้ำและแบตแห้ง

 1. เอา ขั้ว บวก และขั้วลบ หนีบที่แบตรถยนต์ให้ตรงขั้ว( ค่าโวล์จะแสดงขึ้นมา )

 2. กด enter   เลือก BATT  กด enter …………  

   กดปุ่มขึ้นลงจะมี2หัวข้อให้เลือก   
    2.1.   SEAL ( แบตแห้งเลือก SEAL )    แล้วกด ENTER
   2.2.   SLI     ( แบตน้ำเลือก SLI      )  แล้วกด ENTER

 

 กดปุ่ม (ขึ้น ลง)จะมี5หัวข้อให้เลือก 

 เลือก SAE (มาตรฐานUSA )  กด ENTER

3.เครื่องจะถามค่า CCA เริ่มต้น   (  เราควรรู้ว่าว่าแบตแต่ละรุ่นจะมีค่า CCAประมาณเท่าไร  )

 O ไฟเขียว  คือแสดงประสิทธิภาพของแบต      O ไฟเหลือง  คือประสิทธิภาพของไดชาร์ท

 
การวัดค่า ระบบสตาร์ทของรถยนต์  และไดชาร์ท

 2.เอา ขั้ว บวก และขั้วลบ หนีบที่แบตรถยนต์ให้ตรง ขั้ว  ( ค่าโวล์จะแสดงขึ้นมา )   

     โวลล์ขึ้น  12.13V    ……… test จากรถ NISSAN MARCH

 3. สตาร์ทเครื่องยนต์  แล้วมาดูหน้าจอ BT222     จะเห็นว่า โวลล์จะเหลือ  8.29 volt

     O ไฟเขียวขึ้น ที่หน้าจอ  แสดงว่าระบบ สตาร์ท OK

 4. กดปุ่ม ENTER     เลือก CHARGE กดenter    

 ที่หน้าจอ โวลล์จะขึ้น  14.19 V ...TEST จากรถ NISSAN MARCH

 
 หมายยเหตุ  โวลล์ที่เหมาะสมสำหรับการชาร์ท คือ  

 13.2 - 14.6 volt  แสดงว่า ไดชาร์ททำงานปรกติ

 ถ้าโวลล์สูงกว่า  14.6 Volt  แสดงว่ารถยนต์ OVER CHARGE

 

         
DHC BT 111 เครื่องวัดค่า CCA ของแบตเตอรี่
DHC BT 222 เครื่องวัดค่า CCA ของแบตเตอรี่ , วัดไดสตาร์ท , วัดไดชาร์ท
DHC BT 501 เครื่องวัดค่า CCA ของแบตเตอรี่ , วัดไดสตาร์ท , วัดไดชาร์ท , สามารถปรินท์ผลทดสอบได้
DHC BT RT777 เครื่องวัดค่า CCA ของแบตเตอรี่ , วัดไดสตาร์ท , วัดไดชาร์ท , สามารถปรินท์ผลทดสอบได้
สามารถวัดแบตเตอรี่  6VOLT ,12VOLT 



สนใจกรุณา ติดต่อได้ที่เบอร์ 0816853377
ID LINE : 0816853377

 ความรู้ ค่า CCA แบตเตอรี่  หรือค่า กำลังสตาร์ทของแบตเตอรี่

ในปัจจุบันนี้ พศ 2558 แบตเตอรี่รถยนต์ยี่ห้อต่างๆนั้นมีให้เลือกหลายรุ่นหลายขนาด เช่นยี่ห้อแบต  GS , 3K , PANASONIC  BOSCH , YAUSA , FB , BOLIDEN ..... และแบตเตอรี่แต่ละรุ่นนั้นก็จะมี มีกำลังไฟ (POWER) และแอมป์แปร์ที่ต่างกันไป ขึ้นอยู่กับชนิดและขนาดของแบตเตอรี่ แบตเตอรี่รถยนต์ปัจจุบันโดยทั่วๆไปจะมีให้เลือกอยู่3ชนิด  คือ 1.แบตน้ำ  กรด-ตะกั่ว   2.แบตกึ่งแห้งพร้อมใช้ MF และ 3. แบตแห้งพร้อมใช้ SMF  ซึ่งแบตเตอรี่รถยนต์แต่ละชนิดจะมีกำลังสตาร์ทของแบตหรือค่า CCA ที่ไม่เท่ากัน  ซึ่งค่าCCAนี้ผู้ใช้รถยนต์ทั่วไปจะไม่ค่อยสนใจมากนักเพราะอาจจะไม่เข้าใจว่ามันคือค่าอะไรมีผลอะไรต่อเครื่องยนต์  แต่ผู้ใช้รถยนต์หลายๆท่านก็คงเข้าใจและรู้จักดีว่า ค่า CCA หรือค่ากำลังสตาร์ทของแบต คืออะไร   ค่า CCA  ย่อมาจากคำว่า (Cool Cranking Ampere) ของแบตเตอรี่  หรือค่ากำลังสตาร์ทของแบตเตอรี่นั้นเอง

CCA (Cool Cranking Ampere) ค่านี้มีความสำคัญอย่างไร  ค่านี้เป็นค่าที่บอกถึงกำลังไฟสำหรับการสตาร์ทเครื่องยนต์นั้นเอง.....ถ้าค่าCCA นี้ลดลงไปถึงจุดจุดหนึ่ง ก็อาจทำให้กำลังไฟจากแบตเตอรี่ ลูกนั้นๆ ไม่พอสำหรับการสตาร์ทเครื่องยนต์ได้  ( แต่การสตาร์ทเครื่องยนต์ไม่ติดนั้นก็อาจจะเกิดจากปัจจัยอื่นๆประกอบด้วยเช่นกัน )  ค่า CCA ของแบตเตอรี่รถยนต์แต่ละรุ่น นั้น จะมีค่าไม่เท่ากัน  แบตเตอรี่ที่มี่แอมป์มากกว่า  ถ้ายี่ห้อเดียวกัน และชนิดเดียวกันจะมีค่า CCA  ก็จะมากกว่าแน่นอน  เช่น แบตเตอรี่รถยนต์ยี่ห้อ PANASONIC ชนิด MF  ขนาด35 แอมป์  และ45แอมป์
แบต45แอมป์ก็จะมีค่า CCAที่มากกว่าแน่นอน

การเลือกซื้อแบตเตอรี่รถยนต์ถ้าเลือกใช้อย่างเหมาะสมก็จะสามารถยืดอายุการใช้งานของแบตเตอรี่ได้นานไปอีกพอสมควร

สาเหตุที่ทำให้แบตเสื่อมเร็ว
1. เลือกใช้แบตเตอรี่รถยนต์ไม่เหมาะสมกับรถ คือเลือกใช้แบตที่มีแอมป์น้อยไป  ( สามารถใช้ได้แต่ใช้ได้ไม่นานเพราะ กระแสไฟจากไดชาร์ท ชาร์ทกระแสเข้ามาที่แบต  เทียบสัดส่วนแล้ว เป็น OVER CHARGE....ผลจะทำให้แบตไฟเต็มเร็วไป  ภายในแบตจะร้อนเร็วและในที่สุด แบตก็จะบวมง่ายพังเร็ว
2.ไปดัดแปลงไดชาร์ทมาเพื่อให้ชาร์ทกระแสเข้าแบตได้เร็วขึ้น  ( โดยส่วนมากคนที่ชอบแต่งเครื่องเสียงรถยนต์ชอบทำกัน )เหตุผลที่พังเร็วเพราะ สัดส่วนของกระแสในการชาร์ทแบตเป็น OVER CHARGE  ,และแบตจะมีการ CHARGE บ่อยครั้งและถี่ มากกว่ารถยนต์ปรกติเพราะมีการใช้พลังงานไปขับ POWER AMPS ที่อยู่ในรถ
3.จอดรถนานมากเกินไป จนทำให้แผ่นตะกั่วมีเขม่าตะกอนไปเกาะที่แผ่นธาตุ ทำให้ประสิทธิภาพในการกักเก็บกระแสในตัวแบตเตอรี่ ทำได้ไม่ดี 
4.ไดชาร์ป ชาร์ทไฟเข้าแบตตลอดเวลาขณะติดเครื่องยนต์  ไฟเข้าแบตเต็มแล้วแต่ไฟชาร์ปไม่หยุดชาร์ท สาเหตุคือวงจรอิเลคทรอนิกส์ตรวจสอบแรงดันไฟในระบบชาร์ทเสีย
5.การที่ภายในรถยนต์มีอุปกรณ์ไฟฟ้าในรถยนต์มากเกินไป เช่น มีแอร์หลายตัว มีพัดลม มีจอทีวีหลายจอ มีแอมป์ขยายเสียงมาก มีลำโพงมากและมีการใช้งานอยู่บ่อยๆ ก็เป็นสาเหตุทำให้แบตเตอรี่ ก็จะมีการชาร์ทไฟเข้าแบตบ่อยกว่าปรกติ


การเลือกแบตเตอรี่รถยนต์ที่มีค่า CCA สูงกว่านั้นดีอย่างไร
1.สามารถจอดรถทิ้งไว้ได้นานกว่า ยังสามารถสตาร์ทรถได้ปรกติเพราะ
2.สามารถเปิดเครื่องใช้ไฟฟ้าภายในรถขณะดับเครื่องยนตืได้นานกว่าก็ยังคงสามารถสตาร์ทรถติดได้
3.แบตเตอรี่จะมีอายุการใช้งานที่นานกว่าแบตเตอรี่ที่มีค่า CCAต่ำกว่า

คู่มือการใช้ เครื่องทดสอบค่ากำลังสตาร์ทของแบตเตอรี่ทั้งแบตแห้งและแบตน้ำหรือค่า CCA ,ระบบสตาร์ท , ระบบชาร์ท เครื่อง DHC รุ่น BT501

1) นำสายเสียบเข้าที่ขั่วบวก ก่อนแล้วตามด้วยขั่วลบ เครื่องจะติดขึ้นมา มีข้อความขึ้นที่หน้าจอ

2) กดที่ปุ่มขึ้นลงจะมีให้เลือก

   2.1 BATTERY TEST – ทดสอบแบตเตอรี่

   2.2 SYSTEM TEST – ทดสอบระบบสตารท์ ไดชาร์ท

   2.3 LANGUANGE SELECT – เลือกภาษา เมื่อกด enter จะมีให้เลือก 7 ภาษาให้กดปุ่มลูกศร เลือกภาษาอังกฤษ ENGLISH

3) BATTERY TEST

    3.1 กดปุ่มลูกศร เลือก BETTERY TEST จะขึ้นหน้าจอ ชนิดของแบตเตอรี่ที่จะทดสอบ BATTERY TYPE มีให้เลือก 4 แบบ

     a. REGULAR LIQUID คือ แบตฯ แบบเติมน้ำกลั่น

     b. AGM FLAT PLATE คือ แบตฯ แห้งแบบไม่ต้องเติมน้ำกลั่น หรือ maintenance free (MF)

     c. AGM SPIRAL คือ แบตฯ แห้งแบบไม่ต้องเติมน้ำกลั่น หรือ maintenance free (MF)

     d. VRLA/GEL คือ แบตฯ แห้งแบบไม่ต้องเติมน้ำกลั่น หรือ maintenance free (MF)

กดปุ่มลูกศร เพื่อเลือกชนิดแบตฯที่ต้องการทดสอบ (ถ้าแบตฯน้ำเลือก REGULAR LIQUID ถ้าแบตฯ แห้งส่วนใหญ่เป็นแบบ VRLA/GEL)

กด enter

3.2 หน้าจอจะขึ้น มาตรฐานการทดสอบ กดปุ่มลูกศร เพื่อเลือก มี

   SAE – มาตรฐาน อเมริกา USA

   EN – มาตรฐาน อังกฤษ ENGLAND

   IEC – มาตรฐานยุโรบ EUROPE

   DIN – มาตรฐานเยอรมัน GERMANY

   JIS – มาตรฐานญี่ปุ่น JAPAN

       กดเลือก SAE มาตรฐาน อเมริกา USA

3.3 ป้อนค่า CCA ที่มากับแบตฯที่จะทดสอบ ปรับค่าขึ้นลงโดยปุ่มลูกศร โดยค่า CCA เริ่มต้นสามารถดูได้จากที่ตัวแบตเตอรี่ หรือดูจากตารางเทียบค่า เช่น ถ้าค่า CCA เริ่มต้นของแบตฯ อยู่ที่ 275 ก็ปรับค่าเป็น 275

3.4 แล้วกดปุ่ม ENTER เครื่องวัด จะแสดง ค่า CCA ออกมา เช่น ถ้าได้ค่า 346 CCA หน้าจอก็จะแสดงผล GOOD & PASS ผลที่ออกมาอาจมีดังต่อไปนี้

   GOOD & PASS : แบตเตอรี่สภาพดี สามารถเก็บไฟได้

   GOOD & RECHARGE : แบตเตอรี่สภาพดี แต่ต้องชารท์ไฟเพิ่ม

   RECHARGE & RETEST : แบตฯไม่มีไฟ ต้องชาร์ทแบตฯ แล้วทดสอบอีกครั้ง

   BAD & REPLACE : แบตฯ เสื่อมสภาพไม่สามารถเก็บไฟได้อีก ต้องเปลี่ยน

   BAD CELL & REPLACE : แบตฯ มีเซลเสีย ต้องเปลี่ยนใหม่ทันที

   LOAD ERROR : แบตฯที่ทดสอบมีค่า CCA เริ่มต้นมากกว่า 2000 CCA หรือ 200 AH / มีการหนีบที่ขั่วไม่แนบพอ ให้ขยับหนีบใหม่

เราสามารถกดเลื่อนซ้ายขวาดูสถานะของแบตเตอรี่ได้ SOH (STATE OF HEALTH) คือสุขภาพของแบตเตอรี่ SOC (STATE OF CHARGE) คือสถานะการชาร์จไฟ

3.5 หน้าจอขึ้น PRINT RESULT? เพื่อให้พิมพ์ผลการทดอบ กด ปุ่มลูกศรเพื่อเลือก YES หรือ NO แล้วกดปุ้ม ENTER

จบขั้นตอนการทดสอบแบตเตอรี่

4) SYSTEM TEST

   4.1 กดปุ่มลูกศรเลือก SYSTEM TEST แล้วกด enter

   4.2 หน้าจอจะแสดง TURN OFF LOADS

          START ENGINE

                ให้ปิดพัดลม ปิดแอร์ ปิดไฟ แล้วสตาร์ทเครื่อง

   4.3 เมื่อเครื่องยนต์สตาร์ท หน้าจอจะแสดงผล อย่างใดอย่างหนึ่ง ต่อไปนี้

          CRANKING VOLTS NORMAL – ระบบสตาร์ทปกติ

          CRANKING VOLT LOW – ค่า CRANKING VOLT ต่ำกว่าระดับปกติ แสดงว่าระบบสตาร์ทเครื่องมีปัญหา

          CRANKING VOLT NO DETECTED – ไม่สามารถวัด CRANKING VOLT

   4.4 ถ้าระบบสตาร์ทเป็นปกติ ให้ กด enter เพื่อเริ่มทดสอบระบบการชาร์จไฟจกาไดชาร์จ

          PRESS ENTER FOR CHARGING TEST

                กด enter จะเห็นข้อความ

         MAKE SURE ALL LOAD ARE OFF

               ให้ตรวจสอบอีกครั้งว่า ปิดพัดลม แอร์ เครื่องเสียง และไฟหน้า รถแล้ว

                กด enter จะเห็นข้อความอย่างใดอย่างหนึ่งต่อไปนี้

              4.4.1 ALT. IDLE VOLTS LOW - จ่ายไฟเข้าแบตฯ ต่ำเกินไป

              4.4.2 ALT. IDLE VOLTS NORMAL – ไดชาร์จทำงานปกติ

              4.4.3 ALT. IDLE VOLTS HIGH – จ่ายไฟเข้าแบตฯ สูงเกินไป

กด enter

หน้าจอจะแสดงข้อความ TURN ON LOAD AND PRESS ENTER

ให้เปิดโหลดทุกอย่าง (เปิดไฟ พัดลมแรงสุด แอร์ เครื่องเสียง) จากนั้น กด enter

เครื่องจะแสดงสถานะ RIPPLE DETECTED ไฟกระเพื่อม (สถานะของไฟกระเพื่อม หรือความสเถียรในการจ่ายไฟของไดชาร์จ) หน้าจอจะแสดงผลอย่างใดอย่างหนึ่งต่อไปนี้

4.4.4 RIPPLE DETECTED NORMAL – การทำงานของไดโอดเป็นปกติ

4.4.5 RIPPLE DETECTED HIGH – การทำงานของไดโอดตัวใดตัวหนึ่งผิดปกติ ระบบชาร์ทไฟมีปํญหา

กด enter

4.5 หน้าจอจะขึ้นข้อความอย่างใดอย่างหนึ่งต่อไปนี้

4.5.1 ALT. LOAD VOLTS HIGH – มีการจ่ายไฟที่สูงเกินไปยังแบตเตอรี่

4.5.2 ALT. LOAD VOLTS LOW – มีการจ่ายไฟจากไดชาร์จไม่พอเพียงกับความต้องการของระบบไฟฟ้าในรถ

4.5.3 ALT. LOAD VOLTS NORMAL – ระบบการจ่ายไฟจากไดชาร์จเป็นปกติ

กด enter

หน้าจอขึ้นข้อความ TEST OVER. TURN OFF LOAD&ENGINE ให้ปิดโหลด ดับเครื่องยนต์

กด enter

หน้าจอขึ้นข้อความ PRINT RESULTS? กดปุ่มลูกศรเพื่อเลือก YES/ NO ถ้าต้องการพิมพ์ผลทดสอบ เลือก YES แล้วกด enter

---

แผนที่ OFFICE ช.แบตเตอรี่